เมืองแอฟเฟซุส
ตื่นตีห้า หกโมงทานข้าว หกสี่ห้าออกเดินทาง เป็นสิ่งที่ไกด์บอกเมื่อวาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลำบากมากสำหรับคนอย่างผม ซึ่งเมื่อคืนเรานอนที่รีสอร์ท Grand Temizel Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมเหมือนชนบทหน่อยๆ แต่ที่สุดของเมื่อวานคืออาหาร กินแทบจะไม่ได้ คือข้าวมันแปลกๆ ไก่ก็เค็มๆ เฮ้อมาสองวันคิดถึง แต่อาหารบ้านเรา ส้มตำ ไก่ย่าง น้ำตก ฯลฯ แต่ทำไงได้ มาสัมผัสรสชาติของคนตุรกี บางทีก็คิดนะเขากินได้ไง 555 เอาเป็นว่าเรื่องกินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือเรื่อง ไม่ได้กิน...เอิ๊ก ออกเดินทางได้
30/11/2560 เวลา 06.45 น.
เป้าหมายในวันนี้คือ โรงงานหนังที่ผลิต เครื่องหนังชั้นดีให้กับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก และเมืองเก่าสมัยกรีซและโรมัน ปลายทางวันนี้คือ ปะมุคคเลย์ มีน้ำแร่ด้วย ระยะทางวันรวม 300 กิโลเมตร เห็นระยะทางก็นะ จะละลายติดเบาะ แต่อากาศวันนี้อยู่ที่ 10+- พอเย็นสบาย ระหว่างการเดินทางก็แวะเข้าห้องน้ำ แอร้ย...เจอสตาร์บัคส์ ผมนี่รีบวิ่งเข้าไปทันใด เพราะกาแฟที่ตุรกีไม่ค่อยถูกคอเท่าไหร่ ราคาสตาร์บัคส์ที่นี่ 80 บาทเอง ผมว่าถูกที่สุดในโลกละที่นี่ จัดคาปูแก้วสบายใจ
30/11/2560 เวลา 09.30 น.
ตื่นมาก็ได้ยินเสียงไกด์เล่าเกี่ยวกับสถานที่เราจะไป สรุปได้คร่าวๆดังนี้ ยุคสมัยของสงครามครูเสธเริ่มต้นที่นี่อาณาจักรของชาวเซลจุก (Seljuk) ชื่อเมืองฟูซาดาซึ หรือเรียกอีกชื่อว่าเมืองแอฟเฟซุส ไม่รู้ว่าเกี่ยวอะไรกับเทพตีแหล็ก ตามนิยายเทพกรีซเปล่านะ ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและทางธรรมชาติ ทำให้ชาวเติร์กอพยพออกจากเอเชียกลางไปยังดินแดนต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ชาวเติร์กเผ่าหนึ่งเรียกว่า “เซลจุก (Seljuk) ” ได้อพยพมาทางทิศตะวันตกเข้าสู่เขตทะเลสาบแคสเปียน และได้ขยับเข้ามาใกล้อานาโตเลียในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในปี พ.ศ. 2244 (ค.ศ. 1071) สุลต่าน Alparslan ผู้นำชาวเติร์กเผ่าเซลจุกประสบชัยชนะในสงครามเหนือกองทัพของจักรพรรดิโรมานุสที่ 4 แห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์ ณ สมรภูมิเมืองมาลัซเกิร์ต (Malazgirt) (ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตจังหวัดมุส ในภาคตะวันออกของประเทศตุรกี) ชัยชนะครั้งนี้ได้เปิดทางให้ชนเชื้อสายเติร์กจากเอเชียกลางหลั่งไหลเข้าสู่ดินแดนอานาโตเลียนั่นเอง ที่นี่จะนิยมทำเกษตรกรรมสวนส้ม สวนมะกอก แปลกนะที่ตุรกีนี่ชอบสร้างเมืองอยู่ริมเขานะ ที่ราบก็ไม่สร้างบ้านนะ อาจเป็นเพราะบนเขาเป็นชัยภูมิที่ดีในการต่อสู้ และความเชื่อในการสร้างอยู่บนที่สูงเพื่อให้ใกล้กับเทพเจ้ามากที่สุด แต่ตอนนี้จะไปโรงงานเครื่องหนังก่อน ของรัฐบาลแหละตามนโยบาย มากับทัวร์ก้ต้องทำใจว่าต้องมีพาเข้าชมของในบ้านเมืองเขาแหละครับ พื้นที่แถวนี้ใกล้ทะเลอีเจี้ยน และที่นี่ยังใช้พลังงานลม และแสงอาทิตย์ในการผิตไฟฟ้าใช้นะครับ เห็นหลายบ้านมีกังหันลมและโซล่าเซลบนหลังคาเกือบทุกบ้าน แต่บ้านเราทำสิโดนฟ้อง มันช่างแตกต่างกันกับพลังงานทางเลือก ที่เราเลือกไม่ได้ ขำขำนะครับ
30/11/2560 เวลา 11.00 น.
ตอนนี้เราก็มาถึงเมืองเก่า เอฟเฟซุส ที่ถูดยึดครองโดยพวกเซลจุก ซึ่งจะอยู่บนเนินเขา ค่าเข้าก็ 45 ลีลา ซึ่งน่าจะราคาต่างชาตินะ ข้างในก็จะแบ่งเป็น 2 โซน คือพวกชนชั้นกษัตริย์ ขุนนาง และชนชั้นล่าง ซึ่งมีโรงละคร มีตลาด มีห้องสมุด แต่ก็มีแค่เค้าโครงเท่านั้น เพราะมันหลายพันปี มีพื้นที่ใหญ่ครับ บางแห่งเป็นหินอ่อน โมเสก และหินทรงโรมัน มากมาย บางทีดูเหมือนกองภูเขาหิน แต่ไม่เคยเห็นก็สวยครับ แบบเราไปเที่ยวอยุธยาแหละครับ แต่สถาปัตยกรรมมันคนละแบบเท่านั้น หลังจากที่ดูเมืองเก่าเสร็จ เราก็เดินทางไปทานอาหารที่ hitit hotel ซึ่งไม่ไกลจากเมืองเก่าเท่าไหร่และเป็นอาหารบุฟเฟ่ แต่ว่าอย่างเคย ทานไม่ค่อยจะได้ จะมีทานได้ก็ข้าวมัน กับไก่กริว ทานกับน้ำจิ้มข้าวมันไก่ของไกด์ที่เตรียมมา จึงจบกับการทานอาหารอย่างเรียบร้อย
30/11/2560 เวลา 13.00 น
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเราได้เดินทางไปร้าน terkis delight ที่แปลว่าร้านขนม ตอนแรกคิดว่าเป็นชื่อขนม แต่ว่าที่จริงมันคือขนมตุรกีทั้งหมด ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งและถั่วนานาชนิด มีหลายแบบ แต่หวานมาก ลองทานก็ดีครับ อร่อยแปลกๆ 555 เสร็จเราก็เดินทางต่อไปยังบ้านพระแม่มารีย์ ซึ่งเป็นมรดกโลก และเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ท่านจะกลับสวรรค์ ก็ห้ามถ่ายรูปภายในบ้านท่าน และห้ามส่งเสียงดัง มีน้ำพุไว้ขอพร สามเรื่องคือ สุขภาพ ความรัก และอนาคต ผมก็ไปขอนะ แต่เขาไม่บอกว่าเราจะได้เรื่องอะไร กลัวจะได้ไปแก้บนอีก 555
30/11/2560 เวลา 14.30 น
ตอนนี้เสร็จจากเมืองนี้แล้วเราต้องเดินทางไปปามุคคาเลย์ เพื่อชมปราสาทปุยฝ้าย แต่ดันเกิดเหตุขัดข้อง ทัวร์เราโดนจับ เพราะคนขับรถไม่มีข้อมูลในการขับรถ แบบเหมือนไม่มีข้อมูลใบขับขี่ ทำให้ต้องรอรถคันใหม่และคนขับคนใหม่เวรกำมากมายเราก็เลยมารอที่ ร้านอาหารเมื่อตอนกลางวัน นั่งทานชารอ ไกด์บอกไม่เคยเจอ เออแล้วมาเจอวันที่ตรูมา 555 ยังมีปราสาทปุยฝ้าย คงไปวันพรุ่งนี้เพราะหลังจากนี้ต้องขับรถใช้เวลาอีก 3 ชม. วันนี้คงรีวิวกันได้เพียงเท่านี้ วันนี้พี่จะทานเบียร์ย้อมใจ แต่ดีนะครับที่นี่เวลาโดนจับ ก็ห้ามขับรถเลยยึดรถไปตรวจสอบด้วย บ้านเราเหรอโทรแปบเดียวปล่อย ช่างต่างกันเสียจริง
30/11/2560 เวลา 20.30 น
และแล้วก็มาถึงที่พักซ่ะที ที่นี่มีน้ำแร่ให้แช่ด้วยนะ แต่ถ้าไม่แช่ก็แช่ในอ่างของห้องก็ได้เพราะมันน้ำแร่เหมือนกัน วันนี้ร่างจะสลายเดินทางยาวมากมาย พรุ่งนี้ตื่นสายได้นิดหน่อย เพราะไกด์นัด 6.30 ทานข้าวและออกเดินทางไปยังเมืองคอนย่าต่อ ก็ยังไม่รู้นะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่บอกได้เลยว่า อาหารยิ่งนานวันยิ่งทานจะไม่ได้ งานนี้ผอมแน่นอน วันนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ คิดถึงอาหารบ้านเรา