แชงกรีล่า (Shangri-La)
เช้าวันใหม่ใน แชงกรีล่า (Shangri-La) สวัสดีด้วยนะครับกับ Ep2 ซึ่งหลังจากที่เรามาถึง แชงกรีล่าแล้วก็เย็นมาเลยไม่ได้ทำอะไร นอกจากไปหาอะไรทานใน เมืองเก่าแชงกรีล่า (Shangri-La) ซึ่งช่วงประมาณสองทุ่มกว่าก็มีการออกกำลังกาย เปิดชวนนักท่องเที่ยวเปิดเพลงเต้นคลายหนาว ก็เป็นอีกไฮไลท์หนึ่งในการมาครั้งนี้
เนื่องด้วยอาการมีเบาบาง เพื่อนผมบางคนก็ไม่ไหวกับความกดอากาศ ใครมาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะครับ ออกซิเจน ยาต้านความกดอากาศ ยาหอมยาลม ฯลฯ โดยเช้าวันนี้เราไม่มีกิจกรรมมากครับ มีแค่แต่งตัวแล้วไปวัดซงจ้านหลิน (GandenSumtseling Monastery) ซึ่งวัดซงจ้านหลิน เป็นวัดลามะที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนาน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1679 อยู่ห่างจากตัวเมืองแชการีล่า 5 กิโลเมตร องค์ดาไลลามะที่ห้าของทิเบตเป็นผู้เลือกสรรสถานที่สร้างวัดแห่งนี้หลังกราบทูลจักรพรรดิ คังซีแห่งราชวงศ์ ชิง และจักรพรรดิ คังซีได้พระราชทานนามว่า กุยฮว่าซื่อ วัดนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองแชงกรีล่า ประเทศจีน ถ้ามาเที่ยวแชงกรีล่าแล้วไม่ได้แวะมาวัดซงจ้านหลินก็ถือว่ายังมาไม่ถึงแชงกรีล่า
เราเที่ยวถ่ายภาพก็เกือบบ่ายโมงแล้ว วันนี้ต้องกลับไปนอนที่ลี่เจียง เลยไม่ได้ไปไหนต่อก็รีบนั่งรถย้อนกลับ โดยได้แวะกลางทาง เป็นจุดแวะพักวิวเบื้องหน้าเป็นวิว ภูเขาหิมะฮาปา （哈巴雪山）ก็สวยดีนะครับ ไม่แน่ใจว่าแถวไหน หลังจากนั้นเราก็เร่งเดินทางและได้ไปแวะอีกจุดหนึ่งคือในตัวเมืองลี่เจียง เป็นถนนที่มีต้นท้อเรียงรายมากมายเลยได้แวะถ่ายภาพ และเข้าที่พักเย็นพอดี ซึ่งวันนี้เราพักที่ลี่เจียง อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเทล ซึ่งเราจะพักที่นี่สองคืน ที่นี่ก็ใกล้เมืองเก่าลี่เจียง สามารถเดินไปได้ ตรงนี้จะมีร้านค้ามากมาย เหมือนเป็นโซนกลางเมืองเลย เสียดายสินค้าสินค้าส่วนใหญ่เป็นโลคอลแบรนด์ เลยไม่ได้ซื้ออะไร เพราะมันฟิลก๊อบปี้หมด สั่งในเว็บออนไลน์เราก็ได้ หลังจากที่เราเข้าที่พักเราก็พากันเดินทัวร์เมืองลี่เจียงกันต่อ สักสามทุ่มก็กลับ เพราะพรุ่งนี้เราต้องตื่นเช้าไปทัวร์ภูเขาหิมะมังกรฟ้า
6.00 น. เช้าวัดถัดมา เราได้ซื้อทัวร์ 750 หยวนต่อคน เป็นวันเดย์ทริป private เพื่อขึ้นเขาภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) และหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) โดยรวมทุกอย่างแล้วค่ากระเช้า ค่ารถไฟฟ้าไปหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน อาหารกลางวันที่เป็นต้มจืดสักอย่าง และค่าชมการแสดง ลี่เจียงอิมเพรสชั่น (Impression Lijiang Show)
หลังจากออกเดินทางเราก็ไปรับออกซิเจนกระป๋อง ที่ไกด์มีแจกคนละ 1 กระป๋อง และเสื้อคลุมกันหนาวกันเปียกอีก 1 ตัว เราเราก็นั่งรถยนต์ไปถึงตีนเขา ระหว่างทางบรรยากาศนั้นก็สวยงามมาก เราได้เข้าไปหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน (Blue Moon Valley) ก่อนและสัก 9.00 น. ก็ขึ้นกระเช้าไปยัง ภูเขาหิมะ มังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ซึ่งวันนี้อากาศไม่เป็นใจเอาเสียเลย มีแต่หิมะตกไม่เห็นยอดเขาเลย แต่น้องก็แอบบมาบางช่วงนะ พอได้ถ่ายเอาสวยๆ เก็บบรรยากาศเท่าที่ได้เพราะอากาศหนาวด้วย และอากาศเบาบางด้วย เราลงจากภูเขาถึงด้านล่างประมาณ 12.00 น. และก็ไปชม ลี่เจียงอิมเพรสชั่น (Impression Lijiang Show) ต่อเลย ซึ่งทั้งสามสถานที่คืออยู่ในที่เดียวกัน จัดเป็นโซนๆไป แบบว่าการแสดงไม่รู้เรื่องนะ แต่ความอลังการเต็มร้อยเลย มาที่นี่ต้องมาดู
หลังจากที่เราดูโชว์จบ เราก็ลงจากเขาเดินทางกลับ แนะว่าถ้าใช้ไพรเวททัวร์เราจะสบายไม่ต้องรอคนครบแล้วค่อยลง เสร็จเมื่อไหร่ลงได้เลย เราก็จะมีเวลาเดินเที่ยวในเมืองลี่เจียงต่อ ซื้อของฝากแนะนำให้ซื้อในร้านของชำเลยนะ พวกขนมนมเนย และอย่าลืมไปกินปิ้งย่างของเขาด้วยละ อร่อยอยู่นะ สำหรับทริปนี้เราเดินทางเอง จัดการเอง มันก็จะไม่เหนื่อยเดินทางเท่าไหร่ ด้านภาษาก็ใช้ตัวแปลภาษาของ we chat ได้ เงินใช้ True money ผมไม่ได้แลกเงินไปเลย มีบางร้านที่ต้องใช้ we chat pay แต่การมาจีนเองครั้งนี้ได้เปิดโลกของผมขึ้นเยอะเลย ไม่เจอคนโกงนะ มีแต่โก่งราคาของ taxi วันขากลับ ถ้าคุณเรียก DIDI ผ่าน App Alipay คนที่นั่นเรียกจือฟู่เป่านะ ก็จะไม่โดนโก่งราคา แต่ไม่ซีเรียสครับ
ถือว่าการเดินทางครั้งนี้ Happy ตลอดทริป เราเดินทางกลับช่วงเที่ยงของอีกวัน สรุปงบประมาณเราใช้ไป 21xxx ต่อคนกับ 5 วัน 4 คืน ที่ลี่เจียงและแชงกรีล่า เสียดายสนามบินมันเล็กมากไม่มีของขายนะครับ ไม่ต้องไปหา ซื้อที่ในเมืองให้เสร็จเลย สำหรับทริปนี้ต้องขอลาไปก่อนละครับ ไว้ติดตามกันใหม่นะครับ
