แหลมพรหมเทพ
ขอบบอกเลยว่าที่นี่เป้นที่หนึ่งที่เคยไปแล้วชอบมาก มันได้บรรยากาศฟิลแบบโรเมนติกสุดสุดเลยนั่นคือ แหลมพรหมเทพ เดิมชาวบ้านเรียกว่า "แหลมจ้า" เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเลื่องชื่อของจังหวัดภูเก็ต ด้วยเหตุนี้เมื่อได้เวลาพระอาทิตย์อำลาขอบฟ้า จะมีผู้มาคอยชมอย่างเนืองแน่น สมัยก่อนเป็นเพียงเฉพาะวันหยุด แต่ในปัจจุบันผู้คนเนืองแน่นทุกวัน เมื่ออาทิตย์ลาขอบฟ้าไปแล้วทำให้เกิดการจราจรที่ติดขัดยาวเป็นกิโล หลายคนคงอาจจะเคยไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพกันมาบ้างแล้ว แต่จะมีซักกี่คนที่เคยเดินลงไปจนสุดปลายแหลมด้านล่าง วันนี้เราเลยอาสาจะพาเพื่อนๆลงไปเที่ยวปลายแหลมพรหมเทพกัน ว่าแล้วก็ลุยกันเลย
แหลมพรหมเทพ มีลักษณะเป็นแหลมหินยื่นไปในทะเล มีต้นตาลขึ้นที่แหลมพรหมเทพเป็นจำนวนมาก แต่ช่วงหลังมีต้นตาลที่หักล้มลงหลายต้นจากลมที่พัดมาแรง เมื่อยืนที่ที่แหลมพรหมเทพมองออกไปที่ทะเลจะเห็นเกาะแก้วอยู่เบื้องหน้า และทางด้านขวาจะเป็นหาดในหาน มีเรือยอร์ชจอดลอยลำอยู่เป็นจำนวนมาก กิจกรรมยอดนิยมของแหลมพรหมเทพ คงหนีไม่พ้นการรอเวลาชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่ควรจะไปก่อนพระอาทิตย์ตกดินอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะรถจะติดหาที่จอดรถยาก ระหว่างรอชมพระอาทิตย์ตกดินแนะนำให้ไปซื้อปลาหมึกย่างมาทาน ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของแหลมพรหมเทพเค้าเลย แหลมพรหมเทพตั้งอยู่ที่ตำบลราไวย์ จากหาดราไวย์ไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร เป็นแหลมที่มีเนินสูงอยู่ทางใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกแหลมพรหมเทพว่า "แหลมเจ้า" เป็นสถานที่ชมความงามของท้องทะเลที่สวยงาม บนเนินที่ทอดลงไปสู่แหลม มีต้นตาลที่ยืนสู้รับลมทะเลเด่นชัด บนยอดเนินมีลานจอดรถกว้างขวาง จากยอดหน้าผาสูงชันสามารถมองลงไปในทะเล เห็นน้ำเขียวสด กระแสน้ำที่ไหลวนและเกลียวคลื่นดูลึกล้ำ เลยออกไปในทะเลจนเห็นเกาะหลายเกาะ
การเดินทาง เริ่มจากทางหลวงหมายเลข ๔๐๒๔ ถนนวิเศษ(ห้าแยกฉลอง-ราไวย์)ความยาวประมาณ ๕ กิโลเมตร สภาพผิวทางเป็น ผิวแอสฟัลท์ติดคอนกรีต กว้าง ๖ เมตร ไหล่ทางลาดยาง กว้างข้างละ ๒ เมตร ซึงเป็นเส้นทางไปสู่หาดราไวย์และแหลมพรหมเทพ ช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน ประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน เเละต้องมาก่อนเวลาพระอาทิตย์ตกประมาณ 16.30 - 18.00 น. จะเป็นช่วงที่สวยที่สุด