อย่าก๊อบปี้ข้อมูลของเราเลย เราก็พยายามทำทั้งนั้น ขอบคุณครับ

ตุรกี มีดีกว่าที่คิด ฉบับที่ 4 ปามุกกาเล เมืองสปาและศูนย์กลางการรักษาโรค

ปามุกกาเล

สวัสดียามเช้าสดใสที่ Lycus River Hotel เมืองปามุกกาเล บอกเลยว่าน้ำแร่เขาแรงมาก ไม่เหมือนน้ำแร่บ้านเรา แต่กลิ่นไม่ฉุนเท่าไหร่นะ ไม่รู้ว่าดึงมาตรงหรือมาผสมน้ำปกติ อาหารก็พอทานได้ มีข้าวต้ม และไข่ออมเลท ขอน้ำพริกกะไกด์ ใครมาเอาน้ำพริกมาได้เลย ไม่งั้นแหลกไม่ได้สักอย่าง วันนี้ยังมีโปรแกรมไปดูปราสาทปุยฝ้ายก่อนที่เมื่อวานไม่ได้ไป แล้วค่อยออกเดินทางไปเมืองคอนย่า ลุยได้

01/12/2560 เวลา 07.30 น.
อ๊าก...รถคันใหม่ไม่มีฮีทเตอร์ หรือมันไม่ได้เปิดหว่า เย็นมากตรู ฟิลม์ก็มืดอีกนะตะหงิดใจตั้งแต่เมื่อวานว่ามันเย็น เลยเอาเสื้อโค้ทมา แต่เกงยีนเอาไม่อยู่ลืมใส่ลองจอห์น ยังพอทนได้นิด ตอนนี้รถออกแล้วรออาทิตย์ขึ้นจะได้อุ่น สำหรับวันนี้สภาพอากาศเย็นใช้ได้อยู่ในเลขตัวเดียว ยิ่งถ้าแดดไม่ออกอีกละก็นะเย็นยะเยือก ตอนนี้กำลังออกเดินทางไปปามุกกาเล = ปราสาทปุยฝ้าย ห่างจากที่พัก 15 นาที ปามุกกาเล (ตุรกี: Pamukkale, ออกเสียง) หรือแปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) อยู่ในเมืองชื่อเดียวกัน จังหวัดเดนิซลี (Denizli) ประเทศตุรกี เป็นเนินเขาสีขาวของหินปูน มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซียมคาร์บอเนตมาตกตะกอน กว้างและใหญ่มาก ที่นี่เขาเชื่อว่าน้ำแร่ใช้รักษาโรคที่นี่เยอะมาก โดยเมืองเฮียราโพลีส เริ่มก่อตั้งประมาณปี 190 ก่อนคริสตกาลโดยเป็นเมืองของชาวกรีก ต่อมาได้กลายเป็นเมืองสปาและศูนย์กลางการรักษาสุขภาพของชาวโรมันหลังจากที่ได้ค้นพบว่าน้ำแร่ร้อนที่ไหลลงมาจากภูเขาสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่สันนิฐานว่าเกิดภัยธรรมชาติ จึงทำให้เมืองนี้ล่มสลาย อะไปลองดูกัน ว่าจะสวยแค่ไหน ปามุกกาเลถูกเลือกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับเฮียราโพลีส ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุกกาเล ในปี พ.ศ. 2531

01/12/2560 เวลา 07.45 น.
ถึงแล้วกับปราสาทปุยฝ้าย หรือ ปามุกกาเล อือแบบว่าทางเข้าต้องเดินเท้าไปประมาณ 1km ระหว่างทางนั้นมีเมืองเฮียราโพลีส ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่ยังหลงเหลือซากอารยธรรมของชาวโรมัน เพราะล่มสลายจากแผ่นดินไหว ภัยธรรมชาติ เรามาถึงแสงแรกเลยแบบว่าสุดๆ เห็นพระอาทิตย์ขึ้น มีคนขึ้นบอลลูนดูบรรยากาศแต่ผม ถ่ายภาพมุมล่างสวยกว่า ไม่เสียเงินด้วยนะ อิอิ ข้างในปามุกกาเลสวยมากบรรยากาศมันได้ อากาศเย็นช่วงเช้าพอสายหน่อยแดดออกก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ละ ไกด์ให้เวลาที่นี่ 1 ชม. รีบเก็บภาพชมบรรยากาสแบบเร็วและรัวๆ ในการดู ถ่ายรูป แบบหมดแม็ก เอิ๊ก หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางเพื่อไปชมสวนผีเสี้อที่เมือง คอนย่า แบบว่ามากะทัวร์นี่ดีอยู่อย่างเวลาเป๊ะ ชะโงกทัวร์ มาเร็วเคลมเร็ว ก่อนออกแวะทานไอครีมตุรกีด้วย ตามที่เคยเห็นมีการโชว์ตักไอครีมด้วย ขำขำ

01/12/2560 เวลา 11.00 น.
เราได้แวะพักรถแถวเมือง Dina ที่เขาสามารถผลิตฝิ่นได้เพื่อนำไปผลิตยา เราก็ได้แวะเข้าห้องน้ำและได้เข้าทาน โยเกริตย์ฮันนี่ โรยด้วยเมล็ดฝิ่น ไกด์บอกว่าของที่นี่อร่อย เออรสชาติก็อร่อยไปอีกแบบ ข้น มัน เปรี้ยว หวาน ครบรสแต่ต้องคลุกโยเกริตย์กับน้ำผึ้งผสมกันก่อนนะ ไม่งั้นแยกกินไม่อร่อย หลังทานเสร็จก็เดินทางต่ออีกละ ทริปนี้เดินทางเกิน 1000 กิโลเอาจริง 555

01/12/2560 เวลา 13.00 น.
ระหว่างทางไปคอนย่า ที่เมือง Donya เราแวะทานอาหาร ปีกไก่ย่าง อร้าย...อยากจะกรี๊ด เป็นมือแรกที่สามาถกินได้และลิ้มรสคำว่าอร่อย ซึ่งตั้งแต่มามื้อนี้ อร่อยสุดละครับตั้งแต่มาที่ตุรกี ชื่อร้าน OZKAN อีกอย่างก็พิษซ่าเตาถ่าน ตุรกี แป้งก็แบบนิ่มดีนะครับ ต้องลองโดน แถมร้านข้างร้านอาหารนั้น ขายของราคาถูกดี ซื้อกลับบ้านได้ แล้วก็เดินทางกันต่อหลังทานอาหารเสร็จ สังเกตระหว่างทางมีแต่ต้นไม้แห้งเยอะ อาจจะเป็นช่วงฤดูของเขามั้ง แห้งแล้งและหนาว ไกด์บอกว่าที่นี่ต้องเลือกเพราะปลูกพืชที่ทนต่อสภาพอากาศ และเพราะปลูกตามฤดูเท่านั้น น่าสงสารเหมือนกันนะ บ้านเรายังสมบูรณ์ปลูกอะไรก็ได้หมด

01/12/2560 เวลา 15.30 น.
ตอนนี้ถึงเมืองคอนย่าแล้ว Konya ที่นี่เป็นต้นกำเนิดของศาสนาอิสลาม นิกายซูฟี ที่เป็นนิกายรักสงบ เชื่อในจักรวาล การคมนาคมยังใช้รถรางอยู่นะ เรามาชมสวนผีเสื้อ ภูมิภาคเอเชียตะวันออก สถานที่ถูกสร้างให้ เป็นแลนมาร์คใหม่ของ เมืองคอนย่า ซึ่งเมืองคอนย่า มีพื้นที่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ แต่ว่ามีประชากรน้อยเพียง 2 ล้านคนเอง เหตุเพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ประกอบอาชีพไม่ได้ สวนผีเสื้อนั้นเป็นสวนผีเสื้อเขตร้อน อากาศจะถูกคุมให้ร้อน ซึ่งเราเห็นได้ตามปกติเพราะมันเป็นสวนแบบบ้านเรา แต่ถ้าบ้านเขาก็คงน่าสนใจนะ แล้วพามาเพื่อ ควรเปลี่ยนตางรางทัวร์ด่วน ดูไม่น่าสนใจอะไร เมื่อชมสวนเสร็จเราก็เดินทางต่อไปยัง แคปพาโดเชีย Cappadocia

01/12/2560 เวลา 19.20 น.
ตอนนี้ถึงที่พักแล้วโดยนอนที่ เดอะทัวร์ลิส แคปพาโดเชีย มาถึงแล้วก็มืดเลย มองอะไรก็ไม่เห็น แวะเข้าห้องน้ำ อาหารที่นี่ก็แบบเดิมจะไม่พูดละเพราะอย่างไรก็ต้องทานอีกหลายมื้อ แต่วันนี้มีไฮไลท์เวลาสามทุ่ม จะไปดูระบำหน้าท้องกับคลับเต้นของเขา อันนั้นไม่สำคัญ สำคัญคือเหล้าเบียร์ฟรี 555 ขอเมาแพร้บละครับ

 

01/12/2560 เวลา 23.30 น.
แบบว่าตอนนี้บ้านหมุน มันมากกับเต้นระบำหน้าท้อง ดริ้งและดริ้ง สนุกไปอีกแบบนะได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนตุรกี ผมถามว่าอิสลามที่นี่ดื่มได้เหรอ เขาบอกว่าอิสลามที่นี่ดื่มได้ เน้นสังคมมากกว่าเข้ากับวิถีชีวิตสมัยใหม่ได้ เออดีจัง ทำให้ตุรกีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ ลบความเป็นเมืองอิสลามไปเลย จะบอกว่าเหล้าตุรกีแรงมากต้องผสมน้ำก่อนทาน 45 ดีกรี และเหม็นเหมือยา ส่วนไวน์ก็รสปกตินะ แต่ผมติดใจที่เบียร์สดเขาครับ หอมและอร่อยนุ่มลิ้น แต่ตอนนี้เมามากมายพิมพ์ผิดพิมพ์ถูก ขอตัวนอนก่อนละครับ พรุ่งนี้เจอกัน บัย

Comments are closed.

กดติดตามช่อง YOUTUBE เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ

100% secure your website.